คาถาบูชา คาถาบูชาพญานาค ทั่วสากลพิภพ รวม คาถา หนุนดวง เสริมความโชคดี ตลอดปี 2565
คาถาบูชา “คาถา” มีที่มาจากคำว่า “กถา” ซึ่งหมายถึงถ้อยแถลง หรือ คำพูดที่ถูกกลั่นกรอง ออกมาอย่างมีนัยยะ ต่อมาถูกนำมาใช้ ในบริบทของบทสวดบูชา ตลอดจนบทสวด ที่กล่าวอ้างถึง อำนาจพิเศษอันเป็นพลังลึกลับ เหนือธรรมชาติทั้งหลาย ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ลักษณะ คือ คาถาที่ใช้ในด้าน ส่งเสริมความดีงาม เป็นคาถาในทางกุศล และ คาถาที่ใช้ในด้านการทำลายล้าง ทำให้เกิดความเสียหาย
หรือ สิ่งไม่ดีขึ้นถือเป็นอกุศลคาถา ในปัจจุบันนี้ คาถาที่พบได้บ่อยจะเป็น คาถาที่ใช้ในการเสริมโชคลาภ ส่งเสริมความเป็นสิริมงคล ให้แก่ชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็น ” คาถาบูชา ” ที่กล่าวถึงการไหว้บูชาเ พื่อขอพรตลอดจนนำเอาสิ่งที่ดีงาม ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บูชา มาเป็นแนวทางใ นการดำเนินชีวิต เพื่อให้เกิดความมงคล แก่ตนเอง ซึ่งคาถาแบ่งออกได้ดังนี้ วงร็อคสากล
คาถาบูชา 1.คาถาที่ใช้บูชาดาวนพเคราะห์
คาถาประเภทนี้ จะใช้ในการบูชา ดาวพระเคราะห์ ที่เข้าสิงสู่ตามราศีเกิด เพื่อผ่อนเพลาเคราะห์ วิบากกรรมต่างๆ ที่อาจจะประสบได้ ในราศีนั้น ให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้น รวมถึงการสวดคาถา ที่ใช้บูชาพระเคราะห์ ที่เป็นพระเคราะห์ ประจำวันเกิดของตน เพื่อให้อำนวยอวยพร ให้เกิด
สิ่งสวัสดิมงคล ขึ้นในชีวิต ในกรณีที่ต้องการ เรียกโชคลาภ ทั้งนี้คาถาสวดบูชา นพเคราะห์ มีทั้งคาถาแบบ แยกบูชาเฉพาะองค์นพเคราะห์ บูชากำลังวัน ตลอดจนมงคลคาถา ประจำนพเคราะห์ แต่หากต้องการ สวดบูชา แบบรวมทั้งหมด ในครั้งเดียวเลย ก็สามารถสวดบูชา พระเคราะห์ และเสริมดวงได้ ด้วยคาถาบทนี้
“นะโม เม สัพพะเทวานังสัพพะคะระหะ จะ เทวานังสุริยัญจะ ปะมุญจะถะ สะสิ ภุมโม จะ เทวานัง
วุโธ ลาภัง ภะวิสสะติ ชีโว สุกะโร จะ มะหาลาภังโสโร ราหูเกตุ จะ มะหาลาภัง สัพพะ ภะยัง วินาสสันติ
สัพพะ ทุกขัง วินาสสันติสัพพะ โรคัง วินาสสันติลักขะณา อะหัง วันทามิ สัพพะทาสัพพะเทวา มัง ปาละยันตุ
สัพพะทา เอเตนะ มังคะละเตเชนะสัพพะโสตถี ภะวันตุเม”
ก่อนการสวดคาถา จะต้องมีการสวดมนต์ไหว้ พระบูชาพระรัตนตรัย สวดไตรสรณคมน์ แล้วตั้งนะโม 3 จบ ก่อนเข้าสู่ คาถาบทนี้ หากต้องการสวดคาถาบทนี้ เพื่อสะเดาะเคราะห์ควรสวด ในเวลาพลบค่ำในช่วงเวลา พระอาทิตย์ตกดิน โดยให้อนุมานเอาว่า พระเคราะห์ทั้งหลาย
ได้ตกตามพระอาทิตย์ ที่แสดงถึงการสิ้นสุด มันไปแล้ว ส่วนผู้ที่ต้องการสวดคาถา เพื่อเรียกโชคลาภ เสริมมงคลให้กับชีวิต ควรสวดในตอนรุ่งเช้า ก่อนพระอาทิตย์ ขึ้นเปรียบเสมือน การเริ่มต้นใหม่ที่ดี คาถาบูชา ร.5
2.คาถาบูชาพระอริยเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์
คาถาประเภทนี้ ถูกประพันธ์ขึ้น เพื่อสวดอาราธนาคุณอันวิเศษ แห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้น ให้มาเป็นมงคลกับชีวิต ของผู้สวดบูชา ซึ่งเนื้อความของคาถา จะมีทั้งกล่าวถึงคุณงามความดี ในลักษณะเป็นบทประณามพจน์ เชิดชูเกียรติให้กับ ผู้ถูกกล่าวถึง แต่บางคาถา ก็จะกล่าวถึง
ลักษณะพิเศษ หรือคุณอันวิเศษของ สิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น สำหรับคาถาที่ใช้บูชา พระอริยเจ้า และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับความนิยม ในการสวดบูชาโชคลาภ จะมีทั้งคาถาสำหรับใช้บูชา พระสีวลีเถระ ซึ่งท่านมีคุณ
อันประเสริฐ เกี่ยวกับลาภสักการะ มีเนื้อความคาถาว่า
“สีวะลี จะ มะหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา.
สีวะลี จะ มะหาเถโร ยักขะเทวาภิปูโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา สีวะลีเถระคุณัง เอตัง โสตถิลาภัง ภะวันตุเม” หรืออาจจะสวดบูชาสั้นๆว่า “นะชาลีติ” ก็ทำได้เช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีการหาที่ใช้สวดบูชาสัตวเทพต่างๆ เช่น พญานาคราช พญาเต่าเรือน พญากุเวร เป็นต้น นอกจากนี้ ก็ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนในท้องถิ่นต่างๆ ให้ความเคารพนับถือ ก็จะมีการประพันธ์คาถา ขึ้นมากราบไหว้บูชา ด้วยเช่นกัน คาถาบูชา วัดจุฬามณี
3.คาถาสำหรับบูชาธาตุ
ด้วยความเชื่อที่ว่า ชีวิตของมนุษย์ประกอบด้วย ธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ซึ่งธาตุเหล่านี้ ย่อมมีผลต่อการแสดงออก ทางพฤติกรรมภายนอก ตลอดจนกระบวนการ คิดภายในของมนุษย์ ทั้งยังส่งผลต่อดวงชะตาโชคลาภ และ เคราะห์กรรมต่าง ๆ อีกด้วย ดังจะเห็นได้
จากการ สะเดาะเคราะห์หลวงเคราะห์เรือนไฟ เคราะห์หลาวเหล็ก เคราะห์ลมพัดลมเพ เคราะห์แพ้น้ำ ซึ่งความเชื่อเกี่ยวกับ เคราะห์เหล่านี้จะพบได้ในเขตลุ่มน้ำโขง เพราะความเชื่อเกี่ยวกับธาตุต่าง ๆ เป็นความเชื่อที่ได้รับอิทธิพล มาจากประเทศจีน
เมื่อมีการตกทอดปรับเปลี่ยน มาถึงยังเขตลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ซึ่งมีการผสมเข้ากับ อิทธิพลความเชื่อของ กลุ่มวัฒนธรรมอินเดีย จึงเกิดคาถา ที่ใช้บูชาธาตุต่าง ๆ เพื่อใช้ในการสะเดาะเคราะห์ ตลอดจนบูชา เพื่อเกิดความเป็นศิริมงคล ในวาระต่าง ๆ โดยมีหลักใหญ่ใจความ ของคาถาหลักอยู่ 3 ลักษณะ คือ คาถาบูชา พญาครุฑ
คาถาบูชา บูชาธาตุหลัก “นะมะพะทะ” อันหมายถึง น้ำดินไฟลม
บูชาธาตุรวม “นะโมพุทธายะ” ซึ่งการเพิ่มคำว่า “ยะ” อันเป็นความหมาย ของอากาศธาตุเข้ามา จึงถือว่าเป็นธาตุนอกเรือนกาย
บูชาธาตุกรณี “จะภะกะสะ” สำหรับคาถาธาตุ กรณีนี้จะใช้ในการหนุนพลังอำนาจ แห่งคาถาอื่นภายใต้ หลักความเชื่อที่ว่า คาถาอาคมทั้งหลาย ล้วนมีธาตุประจำคาถาแต่ละชนิด ซึ่งเป็นพละกำลัง ของคาถาเหล่านั้น ในการศึกษาศาสตร์แห่งไสยเวทย์ จะต้องมีความถ่องแท้ ในเรื่องธาตุของคาถา เพื่อจะได้บูชาได้อย่างถูกต้อง กับ คาถาที่ต้องการใช้งาน
นอกจากนี้ยังมีคาถา สำหรับบูชาเทวดา ประจำธาตุต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพระแม่ธรณี เทพประจำธาตุดิน พระพายเทพประจำธาตุลม พระเพลิง หรือ อัคนีเทพเทพประจำธาตุ และพระแม่คงคา เทพประจำธาตุน้ำ ซึ่งคาถาเทพประจำธาตุเหล่านี้ นอกจากจะใช้บูชา ตามความศรัทธาแล้ว ก็ยังถูกประพันธ์ขึ้น เพื่อใช้บูชาเทพตามธาตุประจำราศีของตน เพื่อให้เกิดความเป็นศิริมงคล แก่ราศีของตนด้วย
คาถาบูชา 25 ศตวรรษ เพื่อนำมา ซึ่งโชคลาภและความเป็นสิริมงคล ของผู้สวดบูชานั้น นอกจากจะเป็นการขอพร เสริมสร้างพลังด้านบวก ให้กับชีวิตของตนแล้ว ยังเป็นเสมือนเครื่องเตือนใจ ให้ผู้สวดคาถาได้ตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม แสวงหาความเป็นมงคล ให้กับชีวิต
ของตน โดยมีการนำเอาคุณสมบัติ หรือ คุณธรรมอันโดดเด่น ซึ่งปรากฏในคาถา มาเป็นแนวทาง ในการดำเนินชีวิต เสริมสร้างกำลังใจ ให้กับตนเอง และ บุคคลรอบข้าง เมื่อพร่ำสวดคาถาเพื่อบูชาสิ่งต่าง ๆ แล้วก็อย่าลืมบูชาความรัก ศักดิ์ศรี และความดีงามของตนเอง อย่างสม่ำเสมอ เพราะที่สุดแล้ว ความสำเร็จในชีวิต ก็ล้วนแต่มาจากการกระทำ ของตนเองและผู้คนรอบข้าง